Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!


การฉีดโบท๊อกซ์ ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน การฉีดโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น และปรับรูปหน้า ที่ได้ผลชัดเจน ใช้เวลาไม่นาน โบท็อกซ์ มีชื่อทางการแพทย์ คือ “Botulinum toxin A” เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ Clostridium

 

การเตรียมตัวก่อนการฉีดโบท๊อกซ์

ต้องตรวจเช็คร่างกายตนเองก่อนว่าคุณมีความพร้อมที่จะเข้ารับการ ฉีดโบท็อกซ์ แค่ไหน เช่น ตัวคุณนั้นต้องไม่มีโรคประจำตัว ถ้ามีต้องปรึกษาแพทย์ก่อนว่าเป็นโรคนี้จะฉีดได้ไหม และถ้าตั้งครรภ์อยู่ก็ไม่ควรฉีดเด็ดขาดเลย และที่สำคัญคุณควรจะหยุดทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา โสม หรือสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายร้อนประมาณ 2-3 วันก่อนฉีด และอย่าลืม และห้ามกินยาแก้อักเสบหรือแอสไพรินก่อนการฉีดยา 1 อาทิตย์

 

โบท๊อกซ์ทำงานอย่างไร?

เมื่อแพทย์ทำการฉีด Botox ไปในส่วนที่ต้องการรักษาแล้ว Botox จะเข้าไปจับที่ปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือกล่าวได้ว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว จึงทำให้มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ โดยสามารถเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้ภายใน 2 – 3 วัน สำหรับรอยตื้นๆ และรอยลึกจะเห็นผลประมาณ 7 – 14 วัน หลังการฉีดจะได้ผลอยู่ 6 – 8 เดือน

 

 หลังจากการรักษาควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?        1. หลังรักษาห้ามนอนราบ 3 ชั่วโมง        2. ห้ามนวดบริเวณที่ทำการรักษา เพราะอาจทำเกิดการกระจายตัวไปที่กล้ามเนื้อรอบดวงตาได้        3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่ผิวหน้าโดยตรง เช่น การทำเลเซอร์ อบซาวน่า ทรีทเมนต์ที่มีความร้อน            เป็นเวลา 2 สัปดาห์        4. หากใช้ลดขนาดกรามให้เคี้ยวหมากฝรั่งเป็นเวลาครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมงหลังฉีด เพื่อให้ยากระจายตัว

           ทำให้ประสิทธิภาพการรักษาดีขึ้น

 โบท็อกหน้าเรียวรีวิวที่นี่

การใช้โบท็อกซ์ที่ผ่านการรับรองภายใต้การดูแลของแพทย์ ในปริมาณที่เหมาะสม จะมีความปลอดภัย ใครที่สนใจการฉีด     โบท๊อกซ์ ควรทำความเข้าใจ เรื่องการฉีดโบท็อกซ์และปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษารายละเอียดของโบท็อกซ์ก่อนการฉีด ในสถานบริการ หรือคลินิกที่ได้รับมาตรฐานเท่านั้น เพื่อความมั่นใจที่มาพร้อมกับความงาม ชัวร์!